|
นรก-สวรรค์ ตามหลักของพระพุทธเจ้า สาระจาก E-mail |
||||
ดินแดนปัญญาชน [หน้าแรก] [รวมสาระ] [webboard] [คุรุชน] ร่วมสนับสนุนเรา
เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก พรมลายน่ารัก มะขาม ขนมจีน ข้อสอบ o-net a-net สอบบรรจุครู
|
|||||
ทีนี้ ผม อธิบายตาม พระบาลี เรื่องตัวจริง ว่า ร้อนอยู่ที่ อายตนะทั้ง ๖ นี้ มันเป็นนรก สบายอย่างนี้ เป็นสวรรค์ เขากลับหาว่า นี้อุปมา นี่มัน กลับกัน อย่างนี้ ใครโง่ ใครฉลาด? คุณก็ไปคิดเอาเอง แต่ผมยืนยันว่า ตามหลักของพระพุทธเจ้าว่า นี้คือ จริง : นรกที่อยู่ที่อายตนะ ๖ นี้ คือ นรกจริง สวรรค์ที่อยู่ที่อายตนะ๖ นี้คือ สวรรค์จริง ท่านจึงตรัสว่า ฉันเห็นแล้วๆ ก็ไม่ได้พูด ตามที่เขาพูดกัน อยู่ก่อนพระองค์ ที่เขาพูดกัน อยู่ก่อนพระองค์ นั้น เขาพูดกันว่า อย่างนั้น มันจะเป็น เรื่องคาดคะเน หรือ เป็นเรื่องอะไร ก็ตามใจเขา เราจะไม่แตะต้อง เราจะไม่ไปคัดค้าน นี่คุณช่วยจำไว้ ข้อหนึ่ง ด้วยนะ แทรกให้ได้ยินว่า เมื่อมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ตรงกับ ลัทธิของเรา พระพุทธเจ้า ท่านว่า อย่าไปคัดค้าน แล้วก็ ไม่ต้องยอมรับ เมื่อเราไม่เห็นด้วย เราก็ไม่ยอมรับ แต่แล้ว อย่าไปคัดค้าน อย่าไปด่าเขา อย่าไปอะไรเขา ก็บอกว่า คุณว่าอย่างนั้น ก็ถูกของคุณ เราไม่อาจจะยอมรับ แต่เราก็ไม่คัดค้าน แต่เรามีว่าอย่างนี้ๆ เราก็พูดของเราไป ก็แล้วกัน นี่ควรจะถือเป็นหลัก กันทุกคน ถ้าลัทธิอื่น เขามาในแบบอื่น รูปอื่น เราก็ไม่คัดค้าน เราไม่ยอมรับ แต่เราบอกว่า ของพุทธศาสนานี้ เป็นอย่างนี้ๆ ก็ว่าไป ไม่ต้องทะเลาะกัน ที่มันจะไป ทำลายของเขา ยกตัวของตัว ขึ้นมา นี้มันจะได้ทะเลาะกัน จะทำอันตรายกัน เพราะหลักธรรมะ นั้นเอง พระพุทธเจ้าท่านจึงไม่พูด ถึงเรื่องอะไรๆ ที่เขาพูดกันอยู่ก่อน ในหลายๆเรื่อง รวมทั้งเรื่อง นรก สวรรค์ นี้ด้วย แต่ท่านพูด ขึ้นมาใหม่ว่า ฉันเห็นแล้ว คือ อย่างนี้ๆ ฉะนั้น เรามี นรก สวรรค์ ทั้งที่เป็น การกล่าวกัน อยู่ตาม ทางวัตถุ ทางกาย มาสอนใน ประเทศไทย ตั้งแต่ ก่อนพุทธศาสนาเข้ามา ฝ่ายพุทธศาสนาเข้า เขาก็ไม่ได้เอา คำของพระพุทธเจ้า ข้อนี้ มาสอน ประชาชน ก็ยังถือตาม ก่อนโน้นๆ นรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้า นรก สวรรค์ อย่างที่พระพุทธเจ้า ท่านตรัสนี้ ไม่ค่อยมีใครสนใจ พอเอามาพูดเข้า เขาเห็นเป็น เรื่องอุปมา ไปเสียอีก มันกลับกัน เสียอย่างนี้ |
|||||
power by www.seal2thai.org |