
|
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 13 ทักษะ
|
คุยเท่าที่รู้
กับครูแชมป์ SEAL2thai.org |
|
 |
|
|
|
|
|
|
 |
ให้กำลังใจเว็บ
SEAL2thai ด้วยนะจ๊ะ |
|
การเรียนรู้วิทยาศาสตร์
(อย่าลืมให้
like
บทความนี้
ด้านท้ายบทความด้วยนะครับ)
เป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างมีเหตุและผล
โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
|
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 13 ทักษะ
ตั้งแต่ครูแชมป์เรียนวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่สมัยเด็กๆ
เรื่องของทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่คุณครูทุกท่านให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ปัจจุบันเอง
ครูวิทยาศาสตร์ทุกท่านก็ต้องสร้างให้ลูกศิษย์ของตนเองเกิดทักษะเหล่านี้ขึ้นตามช่วงวัย
ทั้งนั้น เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 13 ทักษะ
มีอะไรบ้าง
ทักษะที่ 1 ทักษะการสังเกต
(Observation)
ความหมาย : เป็นวิธีการหาข้อมูลโดยตรงจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่
การดู การดม การฟัง การชิม และการสัมผัส
ทั้งนี้โดยไม่ใส่ความเห็นหรือประสบการณ์เดิมของผู้สังเกตลงไป
ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตเป็น ข้อมูลเชิงประจักษ์
ทักษะที่
2 ทักษะการวัด (Measurement)
ความหมาย : เป็นการเลือกและการใช้เครื่องมือ ทำการวัดหาปริมาณของสิ่งต่าง ๆ
ออกมาเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้เหมาะสม และถูกต้อง โดยมีหน่วยกํากับเสมอ
 |
เด็ก
(เก่ง) วิทย์ ติววิทย์กับครูแชมป์ประถมปลาย
หนังสือวิทย์ที่เหมาะสำหรับทุกคน
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
หนังสือวิทยาศาสตร์ |
ทักษะที่ 3 ทักษะการจำแนกประเภท
(Classification)
ความหมาย :
เป็นการจัดแบ่งหรือเรียงลำดับวัตถุหรือสิ่งของที่อยู่ในประสบการณ์
โดยมีเกณฑ์ซึ่งเกณฑ์นั้นอาจใช้ความเหมือนความแตกต่าง
ความสัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
ทักษะที่ 4 การหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปสและสเปสกับเวลา (Spacs /
Spacs Reation and Space /Time Relation)
ความหมาย :
เป็นการจัดแบ่งหรือเรียงลำดับวัตถุหรือสิ่งของที่อยู่ในประสบการณ์
โดยมีเกณฑ์ซึ่งเกณฑ์นั้นอาจใช้ความเหมือน
ความแตกต่างความสัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
แกมมาออริซานอล Gamma Oryzanol
มีคุณสมบัติดังนี้
ทักษะที่ 5 การคำนวน (Using Number)
ความหมาย :
เป็นการนับจำนวนของวัตถุและการนำตัวเลขแสดงจำนวนที่นับได้มาคิดคำนวน
โดยการบวก ลบ คูณ หาร หรือหาค่าเฉลี่ย
ทักษะที่ 6 การจัดทำและสื่อความหมายข้อมูล
(Organizing Data and Communication)
ความหมาย : เป็นการนำข้อมูลที่ได้รับจากการสังเกต การวัด การทดลอง
และจากแหล่งอื่นๆ มาจัดกระทำเสียใหม่ โดยการหาความถี่เรียงลำดับ
จัดแยกประเภท หรือคำนวณหาค่าใหม่
เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจความหมายของข้อมูลชุดนั้นดีขึ้น
โดยการนำเสนอในรูปของตารางแผนภูมิ แผนภาพ ไดอะแกรม กราฟสมการ
หรือการเขียนบรรยาย
ทักษะที่ 7 การลงความคิดเห็นจากข้อมูล (Inferring)
ความหมาย :
เป็นการเพิ่มความคิดเห็นให้กับข้อมูลที่ได้จากการสังเกตอย่างมีเหตุผลโดยอาศัยประสบการณ์เดิมมาช่วย
 |
จอมขมังวิทย์ สรุปเนื้อหาวิทย์ ม.ต้น
หนังสือวิทย์ที่เหมาะสำหรับเตรียมสอบ
ม.ต้น และเตรียมสอบเข้า ม.4 ห้องเรียนพิเศษ ที่นักเรียน ม.1 - 3 ควรมี
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
จอมขมังวิทย์ |
ทักษะที่ 8 การพยากรณ์ (Prediction)
ความหมาย : เป็นการคาดคะเนคำตอบล่วงหน้าก่อนทำการทดลอง
โดยอาศัยประสบการณ์ที่เกิดซํ้า ๆ หลักการ กฏ หรือทฤษฎีที่มีอยู่แล้ว
ในเรื่องนั้นมาช่วยในการสรุป เช่น การพยากรณ์ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวเลข
ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นตาราง หรือ กราฟ ซึ่งทำได้ 2 แบบ คือ
1. การพยากรณ์ภายในขอบเขตของข้อมูล
2. การพยากรณ์ภายนอกขอบเขตของข้อมูล
ทักษะที่ 9 การตั้งสมมติฐาน (Formulating
Hypothesis)
ความหมาย : เป็นการคิดหาคำตอบล่วงหน้าก่อนการทดลอง
โดยอาศัยการสังเกตความรู้และประสบการณ์เดิมเป็นฐาน
ทักษะที่ 10 การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ
(Defining Operation)
ความหมาย : เป็นการกําหนดความหมายและขอบเขตของคำต่าง ๆ
ที่อยู่ในสมมติฐานที่ต้องการทดลองให้เกิดความเข้าใจตรงกันและสามารถสังเกตได้หรือวัดได้
โดยให้คำตอบเกี่ยวกับการทดลองและบอกวิธีวัด
ตัวแปรที่เกี่ยวกับการทดลองนั้น
ทักษะที่ 11 การกำหนดและควบคุมตัวแปร (Identifying
and Controlling Variables)
ความหมาย : เป็นการบ่งชี้ตัวแปนต้น ตัวแปรตาม
และตัวแปรที่ต้องควบคุมในการตั้ง สมมติฐานหนึ่งๆ
ทักษะที่ 12 การทดลอง (Experiment)
ความหมาย :
เป็นกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อหาคำตอบจากสมมติฐานที่ตั้งไว้ในการทดลอง
ซี่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่
1. การออกแบบการทดลอง
2. การปฏิบัติการทดลอง
3. การบันทึกผลการทดลอง
ทักษะที่ 13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป
(Interperting Data and Making)
ความหมาย : เป็นการแปลความหมายหรือบรรยายลักษณะข้อมูลที่มีอยู่
การตีความหมายของข้อมูล ในบางครั้งอาจต้องใช้ทักษะอื่น ๆ ด้วย เช่น
การสังเกต การคำนวน เป็นต้น และการลงข้อสรุป หมายถึง
การสรุปความสัมพันธ์ของข้อมูลทั้งหมด การลงข้อสรุป สามารถทำได้ 2 ระดับ คือ
1. การสรุปในระดับแคบ คือ
การสรุปให้อยู่เฉพาะกลุ่มตัวอย่างหรือสิ่งที่นำมาศึกษา
2. การสรุปในระดับกว้าง คือ
การสรุปที่ออกนอกขอบเขตของกลุ่มตัวอย่างแต่เป็นการขยายกว้างไปสู่ประชากรหรือกลุ่มใหญ่
ข้อสรุปนี้มีความเชื่อถือได้น้อยกว่าแบบแรก
ข้อมูลนี้ได้สรุปและเรียบเรียงจากเอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาสมรรถนะทางวิทยาศาสตร์โดยใช้ทักษะกระบวนการทางการวิทยาศาสตร์
สำหรับนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 (วิทยาศาสตร์ / 52) วันที่ 30
มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2555 ณ ห้องประชุมกาซะลอง อาคารมหาวชิราลงกรณ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม วิทยากรโดย นายพิริยะ ตระกูลสว่าง
ปัจจุบันมีการเพิ่มทักษะที่ 14 เข้ามาคือการสร้างแบบจำลองเข้ามูล
คือการทำสื่อ แผนผัง โปรแกรม หรืออื่นๆ
ที่สามารถสื่อความหมายให้เข้าใจแทนของจริงที่มีขนาดใหญ่กว่า หรือเล็กกว่า
ดังนั้นจึงกลายเป็น ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 14 ทักษะ ครับ
ดินแดนปัญญาชนขอสนับสนุนให้ผู้เรียนทุกคนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
เพื่อนำความรู้นั้นมาพัฒนาคนเองและประเทศชาติครับ
ขอแนะนำนิดนึง
เนื่องจากที่ผ่านๆมา มีนักเรียน นักศึกษาบางส่วน
โพสต์ข้อความหรือรูปภาพบางอย่างในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจเข้าข่ายผิด
พรบ.คอมพิวเตอร์ได้ จึงขอนำมาฝากครับ
ขอให้ทุกคนรักชาติ
และนำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้ครับ ทาง seal2thai.org
ขอส่งกำลังใจให้ทุกคนครับ
ขอบคุณครับที่ทำ
link
และอ้างอิงมาหาเรา
นึกว่าในสังคมจะไม่มีคนให้เกียรติคนอื่นเหลืออยู่อีกแล้ว
 |
ให้คะแนนข้อเขียนนี้ กี่ดาวดีครับ... |
|
|
|