ผมคงเป็นมนุษย์ที่แปลกอีกคนหนึ่ง
ที่ยังมีเวลาเขียนเว็บในวันหยุดขึ้นปีใหม่อย่างนี้
ในขณะที่หลายคนต่างก็กลับบ้าน หรือไปพักผ่อนกับครอบครัว จริงๆแล้ว
มันไม่มีอะไรมากมายในวันที่ 31 ธันวาคม
2554
ซึ่งผมก็ได้มองว่ามันเป็นวันธรรมดาอีกวันหนึ่ง
จนกระทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ได้ทำให้ผมได้มองมันส่งท้ายปีเก่า
ต้อนรับปีใหม่แตกต่างไปจากเดิม
ผมไม่ได้กลับบ้านที่แพร่
ที่ไม่ได้กลับเพราะมันมีสาเหตุ
ก่อนหน้านี้ตอนที่บรรจุรับราชการอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร
ทางโรงเรียนมักจะจัดกิจกรรมในวันที่ 31 ธ.ค.
หรือไม่ก็วันที่ 1 ม.ค. ของทุกปี
เพื่อหารายได้มาพัฒนาโรงเรียน ช่วงนั้นไม่เคยได้กลับบ้านเกิดเลย
จนกระทั้งในปี 54
ผมได้มีโอกาสกลับไปกราบพระอาจารย์ ไหว้พ่อแม่
ได้พบปะเพื่อนฝูงสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมสิบปี
แต่ปีนี้ ผมกลับไม่ได้กลับบ้าน เพราะแผนการณ์ชีวิตทีได้วางไว้เป็นตัวกำหนด
บีบให้ผมอยู่ทำงานคนเดียวที่พิษณุโลก
ผมวางแผนที่จะส่งประกวดผลงานครูดีเด่น
ที่ต้องการประกวดนั้น ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายว่า ต้องการอวดตัวว่าเหนือคนอื่นๆ
เพียงแต่ต้องการให้เด็กนักเรียนได้เห็นถึงผลของการที่ตั้งใจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง
ผลของมันมักหอมหวานเสมอ...
...แต่ปีนี้ไม่ใช่
ปีนี้มันไม่หอมหวาน
เพราะเมื่อผมได้เปิดเว็บของ สพป.พิษณุโลก เขต 1
ก็พบว่า ทางคณะกรรมการของกลุ่มโรงเรียนได้ปิดรับสมัครไปแล้ว ด้วยความตกใจ
ผมจึงรีบโทรไปหาท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ท่านบอกว่า
เดี๋ยวจะลองประสานกับทางกลุ่มให้ ผมแปลกใจตรงที่ว่า
วันที่แข่งกีฬากลุ่มเมื่อต้นเดือนธันวาคม ท่านประธานกลุ่มยังบอกผมว่า
ยังไม่ได้ประชุมคณะกรรมการและตั้งเกณฑ์ และหลังจากนั้น
ผมก็ได้ยินจากท่านผู้อำนวยการเพียงครั้งเดียวว่า
"ใครจะส่งผลงานก็เตรียมตัวไว้"
หลังจากนั้น
ผมก็รีบติดต่อไปยังท่านประธานกลุ่มโรงเรียน
เพื่อขอเมตตาเพิ่มรายชื่อเพื่อเข้าแข่งขันอีก 1 คน
(เข้าแข่งขันนะครับ ไม่ใช่ขอให้ได้รางวัล) ท่านก็บอกว่า
มันหมดเวลาแล้ว และได้แจ้งไปตามโรงเรียนแล้ว
และท่านก็จำได้เพราะผมบอกไว้หลายเดือนแล้วว่าจะส่ง นี่ก็ยังแปลกใจว่าทำไมไม่ส่ง
(ถ้าผมรู้ผมก็ส่งแหละครับท่าน)
นี่ก็แจ้งผ่านทางเว็บเขตไปอีกรอบแล้ว
สรุปแล้ว ก็เป็นความผิดของผมเอง ที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารให้ดี
แต่มาลองนึกๆดูว่า เพราะเหตุใด ถึงพลาดข่าวการประกวดครั้งนี้
และแล้วก็พบกับสาเหตุจนได้...
เพราะมีกิจกรรมต่อเนื่องกันมาตั้งแต่แข่งกีฬากลุ่มเลย
(ทั้งแข่งศิลปหัตถกรรมระดับภาคเหนือ เข้าค่ายธรรมะ แข่งกีฬาอำเภอ
ประชุมผู้ปกครองนักเรียน และเยี่ยมบ้านนักเรียน) ซึ่งงานสุดท้ายที่ทำ
คือการรายงานผลการประชุมผู้ปกครองและเยี่ยมบ้านนักเรียนเมื่อวานนี้ (30
ธ.ค.) ...ประมาณว่า ทำงานถึงนาทีสุดท้าย
ผมโทรหาใครอีกหลายคน เพื่อหาทางออกของเรื่องนี้
เพราะการลงทุนเตรียมประกวดผลงานครูดีเด่นครั้งนี้
แลกกลับการไม่ได้กลับบ้านในวันหยุดหลายวัน...
...สุดท้ายแล้ว คำตอบก็คือ
"ปีหน้าค่อยส่ง"
สรุปว่า ใน 1
ปีที่ผ่านมา ผมได้รับรางวัลซึ่งเป็นรางวัลของชีวิตผม
เป็นรางวัลที่ไม่ต้องแข่งกับใคร ไม่ต้องกลัวว่าใครจะเป็นคู่แข่ง
และไม่ต้องร้องขอ
ไหนจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตร ปริญญาโท
ไหนจะได้เจอกับน้ำท่วมโรงเรียน
ไหนจะได้เป็นคณะทำงานของเขตพื้นที่การศึกษา
3 คณะ
ไหนจะได้เป็นวิทยากร 8 ครั้ง
แบ่งเป็นระดับมหาวิทยาลัย 2 ครั้ง ระดับภาคเหนือ
1 ครั้ง และระดับโรงเรียนในจังหวัดพิษณุโลก
6 ครั้ง
ผมอาจไม่ได้รับเกียรติบัตร หรือโล่ครูดีเด่นในปีนี้ แต่ผมก็ภาคภูมิใจว่า
งานที่ได้ทำใน 1 ปีที่ผ่านมา
มันก็ทำให้เราสถาปนาเป็นครูดีเด่นแบบเถื่อนๆ ได้ (ฮา)
ข้าพระพุทธเจ้า นายพิริยะ
ตระกูลสว่าง ข้าราชการครูในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จักตั้งใจปฏิบัติงาน
ให้สมกับทีได้รับหน้าที่นี้มาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะดำเนินชีวิต
สอนนักเรียน ตามคำสอนของพระองค์ท่าน ด้วยการกล่าวคำสัจนี้
ขอพระบารมีปกเกล้าฯ ให้ข้าพระพุทธเจ้าไปปฏิบัติราชการอย่างปลอดภัย
อย่าให้เกิดอุบัติเหตุ ขอให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
และได้ทำงานรับใช้พระองค์ท่านตลอดไป
บ่นส่งท้ายปีหน่อยนะครับพี่น้อง seal2thai.org
เพราะการเริ่มต้นใหม่ และข้อคิดดีๆที่เกิดขึ้นในวันนี้
ก็อยากจะเผยแพร่เผื่อใครหลายคนจะได้นำไปประยุกต์ใช้ได้ครับ
ท่านสามารถอ่านบทความนี้ได้ที่
http://www.seal2thai.org/sara/sara240.htm
free toolbar
ขอบคุณครับที่ทำ link
และอ้างอิงมาหาเรา
นึกว่าในสังคมจะไม่มีคนให้เกียรติคนอื่นเหลืออยู่อีกแล้ว
|
ให้คะแนนข้อเขียนนี้ กี่ดาวดีครับ... |
|