|
|
||||||||||||||||||||||||||
|
|
|
|||||||||||||||||||||||||
ไข้หวัด 2009 เป็นการระบาดของเชื้อชนิด A H1N1 โดยเริ่มระบาดที่สเปน ในการระบาดช่วงแรกจึงเรียกกันว่า ไข้หวัดสเปน |
|||||||||||||||||||||||||||
กินพะโล้สู้ไข้หวัด 2009น.พ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ American Board of Antiaging medicine แนะนำอาหารการกินในช่วงที่ผู้คนหวาดผวาไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า อาหารไทยมีส่วนช่วยป้องกัน เพราะใช้พืชสมุนไพร เช่น โป๊ยกั๊กของชาวเอเชีย แม้ไม่ได้เข้มข้นฆ่าเชื้อได้ แต่ก็ช่วยให้สุขภาพดี เพราะโป๊ยกั๊กมีสารสำคัญ คือกรดชิคิมิก ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาต้านเชื้อไวรัส ซึ่งโป๊ยกั๊กนี้ใช้ปรุงอาหารประเภทไข่พะโล้ ก๋วยจั๊บ หรือน้ำก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปยาจีน ล้วนมีสรรพคุณในการไล่หวัดได้ดี แถมยังมีรสอร่อยกว่า นอกจากนั้น ยังมีขิง สะระแหน่ ใบหม่อนกับดอกเก๊กฮวยอบแห้ง ซึ่งมีสารตั้งต้นคล้ายกับยาทามิฟลู วันนี้ เหล่าดินแดนปัญญาชนแสวงหายาป้องกัน และรักษาโรค เพราะอัตราการติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตมีสูง แต่เมื่อเราหันกลับไปวิเคราะห์อาหารที่เรารับประทานกัน เราจะพบว่าในอาหารนั้นมีสาร และเป็นตัวยาอยู่ในตัว ทั้งอาหารไทย อาหารประจำถิ่น อาหารจีน ขอเพียงทำสุก ถูกกรรมวิธี และรับประทานอย่างพอดี ก็จะช่วยป้องกันรักษาโรคได้ เมื่อวานนี้จะไปรับประทานก๋วยจั๊บร้านอร่อยของพิษณุโลก (ใกล้ๆโรงแรมอัมรินทร์ฯ) ไปประมาณหกโมงครึ่ง ปรากฏว่า ร้านยังตั้งไม่เสร็จ ทั้งๆที่เกือบทุ่มแล้ว แหมน่าเสียดายจริงๆ แม้ว่าจะอร่อยและดีต่อสุขภาพ แต่การรับประทานอาหารหลัง 18.00 น. ก็ส่งผลต่อระบบการย่อยของคนเราเหมือนกันนะครับ ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด ขอบคุณครับที่ทำ link และอ้างอิงมาหาเรา นึกว่าในสังคมจะไม่มีคนให้เกียรติคนอื่นเหลืออยู่อีกแล้ว |
|||||||||||||||||||||||||||
|