15 โรค ที่มากับหน้าฝน
1.กลุ่มโรคติดต่อของระบบทางเดินอาหารที่พบบ่อย
ได้แก่ โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน บิด ไทฟอยด์ อาหารเป็นพิษ ตับอักเสบ
2.กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนังที่พบบ่อย คือ โรคเลปโตสไปโรซิส
หรือไข้ฉี่หนู อาการเด่นคือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดศีรษะ
มักปวดกล้ามเนื้อบริเวณน่องและโคนขาอย่างรุนแรง และตาแดง
3.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อยได้แก่ โรคหวัด ไข้หวัดใหญ่
คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม
4.กลุ่มโรคติดต่อที่เกิดจากยุง ที่สำคัญ 3 โรค ได้แก่
4.1 ไข้เลือดออก มียุงลายเป็นพาหะนำโรค ซึ่งกว่าร้อยละ 80
เป็นยุงลายที่อยู่ในบ้าน
4.2 ไข้สมองอักเสบเจอี (Japanese Encephalitis)
มียุงรำคาญ มักแพร่พันธุ์ในแหล่งน้ำตามทุ่งนาเป็นตัวนำโรค
4.3 โรคมาลาเรีย มียุงก้นปล่องที่อยู่ในป่า เป็นพาหะนำโรค
5.โรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำสกปรก
กระเด็นเข้าตา
ขณะที่ นพ.ม.ล. สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
จากการเฝ้าระวัง 15 โรคดังกล่าว ตลอดเดือนพฤษภาคม 2552 พบผู้เสียชีวิตแล้ว
13 ราย โดยเสียชีวิตจากปอดบวม 8 ราย อุจจาระร่วงเฉียบพลัน 3 ราย
และไข้เลือดออกและไข้สมองอักเสบ อย่างละ 1 ราย
สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุมได้ นอกจากนี้
ในช่วงหน้าฝนต้องระวังอีก 2 เรื่อง คือ ปัญหาน้ำกัดเท้าที่เกิดจากเชื้อรา
สาเหตุเกิดจากการแช่น้ำสกปรกนานๆ ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดง
ถ้าเกาจะเป็นแผลมีน้ำเหลืองออก และอันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ
แมลงป่องที่หนีน้ำมาอาศัยในบริเวณบ้าน ทั้งนี้
สิ่งที่ต้องระวังคือการรับประทานยาลดไข้ เช่น ยาในกลุ่มแอสไพริน
ห้ามกินอย่างเด็ดขาด เพราะมีอันตรายกับบางโรคที่สำคัญ 3 โรค คือ
โรคไข้เลือดออก โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคไข้ฉี่หนู
ซึ่งโรคดังกล่าวจะทำให้มีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอยู่แล้ว
หากได้รับยาแอสไพริน ซึ่งมีสารป้องกันเลือดแข็งตัวเข้าไปอีก
จะทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ทำให้เสียชีวิตได้ง่ายขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า ในการป้องกันโรคในฤดูฝน
ขอให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สวมเสื้อผ้ารักษาร่างกายให้อบอุ่น
เพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทานโรค
โดยเฉพาะเด็กกับผู้สูงอายุควรดูแลเป็นพิเศษ
เนื่องจากสภาพอากาศมีความชื้นสูง หนาวเย็น
จะทำให้ร่างกายที่มีระดับภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนวัยอื่นๆ อยู่แล้ว
ต่ำลงไปอีก จึงมีโอกาสติดเชื้อโรคทางเดินหายใจได้ง่าย ควรดื่มน้ำสะอาด เช่น
น้ำต้ม รับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ๆ ไม่มีแมลงวันตอม
และล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง ถ่ายอุจจาระลงส้วม
หากในช่วงที่มีน้ำท่วมขัง และส้วมใช้การไม่ได้ ห้ามถ่ายอุจจาระลงน้ำ
ขอให้ถ่ายอุจจาระลงในถุงพลาสติก แล้วปิดปากถุงให้แน่น
วันนี้ เหล่าดินแดนปัญญาชนต้องให้ความสำคัญกับสุขภาพ
ยิ่งมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ (ไข้หวัด 2009)
อันเป็นอุปสรรคต่อการเงิน เพราะหากต้องนำเงินไปรักษาตัวบ่อยครั้ง
ก็จะทำให้เราขาดความคล่องตัว ดังนั้นการป้องกันย่อมดีกว่านะครับ
ออกกำลังกันดีกว่า
ท่านสามารถอ่านบทความนี้ได้ที่
www.seal2thai.org/sara/sara179.htm
free toolbar
ที่มา
กระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณครับที่ทำ link
และอ้างอิงมาหาเรา
นึกว่าในสังคมจะไม่มีคนให้เกียรติคนอื่นเหลืออยู่อีกแล้ว
ขอเชิญร่วมโครงการ ธรรมเทค |