มารู้จักโบท็อกซ์
(Botox)
โบท็อกซ์ คืออะไร?
"โบท็อกซ์" (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสาร โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum
toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่ง ที่สร้างจาก แบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม
โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษแก่มนุษย์
หากได้รับในปริมาณมากๆ เช่น
จากอาหารกระป๋องที่ปนเปื้อนด้วยเชื้อตัวนี้ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
จากการที่กล้ามเนื้อกระบังลมไม่ทำงาน ผู้ป่วยจึงหยุดหายใจ
โบทูลินั่ม ท็อกซิน ออกฤทธิ์ อย่างไร?
โบทูลินั่ม ท็อกซิน ออกฤทธิ์โดยการไปจับกับส่วนปลายของเซลล์ประสาท
ทำให้เซลล์ประสาท ไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทได้ กล้ามเนื้อจึงคลายตัว
หรือ อีกนัยหนึ่งก็คือ เกิด อัมพาตของกล้ามเนื้อเล็กๆนั้น
โดยจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2-3 วัน และเห็นผลสูงสุดในเวลาประมาณ 7 14 วัน
โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3-8 เดือน
ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด
ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำ ผู้รับการรักษาอายุเท่าใด
ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงอาจนับได้ว่าเป็นข้อดี
เพราะหากผลที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ในที่สุดก็จะค่อยๆ หายไปเองได้
ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดี ถูกใจก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ
จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมาก
ในต่างประเทศ พบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต
เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม
ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก
กลืนอาหารลำบาก หน้าไม่สมมาตร ปากเบี้ยว
ไม่สามารถหลับตาหรือลืมตาได้ หรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด
ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์
และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง
ผลจากการฉีด โบทูลินั่มท็อกซิน
นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นเดือน ดังนั้นผู้รับการรักษาจึงใจเย็นๆ
และค่อยๆ รอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้
ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น
ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นกรณีไป
อย่างไรก็ตาม
สังขารของคนเราย่อมไม่เที่ยงแท้แน่นอน เราอาจใช้เวลาที่มาตั้งคำถามว่า
โบท็อกซ์ คืออะไร,
โบท็อกซ์ แพงไหม, โบท็อกซ์
ช่วยให้สวยได้จริงหรือ, ดาราคนนี้ใช้โบท็อกซ์
หรือเปล่า ฯลฯ นั้นเป็นคำถามที่อาจเกิดขึ้นในใจของสาวๆหลายคน
แต่เธอเหล่านั้นอาจลืมถามตัวเองไปว่า วันนี้ทำดีไว้ให้โลกจำหรือยัง
ความสวยไม่คงที่ แต่ความดียั่งยืนนานจ้า
ท่านสามารถอ่านบทความนี้ได้ที่
www.seal2thai.org/sara/sara173.htm
free toolbar
ที่มา
สังขาร
ขอบคุณครับที่ทำ link
และอ้างอิงมาหาเรา
นึกว่าในสังคมจะไม่มีคนให้เกียรติคนอื่นเหลืออยู่อีกแล้ว
ขอเชิญร่วมโครงการ ธรรมเทค |