ข้อควรระวัง
-
คนไข้อาจดื่มน้ำ 1.26 ลิตรได้
ต้องมีความอดทน และต้องใจแข็ง ถ้าดื่มทีเดียวไม่ได้ ก็ต้องเดินไปเดินมา
แล้วค่อยดื่มต่อได้
-
เมื่อดื่มน้ำแล้วประมาณ 20
นาที ให้ออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน หรือ แกว่งแขนขา
ถ้าหากคนไข้ที่ไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ให้คนไข้ใช้วิธีหายใจสูดลมเข้า -
ออกยาวๆ เป็นการออกกำลังกาย และใช้มือคลำท้องน้อย โกยเบาๆ
เพื่อให้ดื่มน้ำได้ ไหลลงลำไส้ เพื่อน้ำจะได้ล้างสิ่งตกค้างอยู่ในลำไส้
-
ระยะแรกอาจจะมีอาการถ่ายท้องหลังจากดื่มน้ำแล้วประมาณ 1 ชม. และจะมีการเบา
2 - 3 ครั้ง แต่ประมาณ 3-4 วัน ก็จะเข้าภาวะปกติ และ 7 - 8 วัน หลัง
อาจจะเบาน้อยลงเหลือวันละ 1 ครั้ง แต่ถ้าการดื่มน้ำสะดวกง่ายขึ้น
การกินอาหารก็จะมีรสชาติขึ้น
ข้อต้องสังเกต
ผู้ที่ดื่มน้ำเพื่อทำการรักษานี้ อาจจะเจริญอาหาร
น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นน้ำปะปา ควรกรองและทิ้งค้างไว้ 1 คืน เพื่อให้เศษ
และสิ่งปะปนมากับน้ำ ได้ตกตะกอนก่อน จึงค่อยนำน้ำนั้นมาดื่มได้ และเวลาทานอาหาร
ให้ทานได้เฉพาะน้ำแกงเพียงเล็กน้อย ไม่ควรดื่มน้ำ และก่อนนอนไม่ควรกินอาหารว่าง
หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวทุกชนิดไม่ควรทานก่อนนอน
โรคที่รักษาได้ผล
-
ความดันโลหิตสูง
ดื่มน้ำรักษา 1 เดือน
-
กระเพาะ ลำไส้
ดื่มน้ำรักษา 1 สัปดาห์
-
กระเพาะถ่วงห้อย
ดื่มน้ำรักษา 3 วัน
-
ท้องผูก
ดื่มน้ำรักษา 1 วัน
-
ถ่ายเป็นเลือด
ดื่มน้ำรักษา 1 สัปดาห์
-
รูมาติซั่ม และผิวหนังบางชนิด ดื่มน้ำรักษา
1 เดือน
กลับไปอ่านการดื่มน้ำรักษาโรค
|