มาฆบูชา

วันเพ็ญเดือนมาฆะกับชาวพุทธ

 

                                                      ผศ.สุรีย์  ไวยกุฬา
                                                               สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

 


     ครั้งสมัยพุทธกาลกล่าวขานว่า        วันมาฆบูชาเพ็ญเดือนสาม
เกิดจาตุรงคสันนิบบาตโอกาสงาม      เหตุการณ์ความอัศจรรย์พร้อมกันมา
สงฆ์หนึ่งพันสองร้อยห้าสิบนับ             ครบถ้วนสรรพที่เผยแผ่พระศาสนา
ไม่นัดหมายแต่พร้อมใจเดินทางมา        เพื่อเฝ้าองค์พระศาสดา ณ เวฬุวัน
พระภิกษุเหล่านี้มีข้อเด่น                     เพราะทั้งมวลล้วนเป็นพระอรหันต์
ซึ่งพุทธองค์ทรงบวชให้โดยทั่วกัน         ด้วยพระวาจานั้นเป็นพิธี
ตรงกับวันขึ้นสิบห้าค่ำเดือนมาฆะ          องค์พุทธะจึงถือโอกาสนี้
แสดงธรรมเทศนาพระบาลี                  ชื่อโอวาทปาติโมกข์มีความสำคัญ
เป็นหัวใจแห่งพระพุทธศาสนา              คือธัมมะสามข้อว่าโดยย่อนั่น
ไม่ทำชั่วทั้งปวงล่วงเกินกัน                 สร้างความดียึดมั่นอยู่ในตน
ทำจิตให้บริสุทธิ์ผุดผ่องใส                จะน้อมนำสุขใจไม่หมองหม่น
สามประการที่กล่าวนี้มีมงคล                ควรยึดถือทุกคนในสังคม
วันมาฆบูชาเวียนมาถึง                        ชาวพุทธซึ่งปฏิบัติได้เหมาะสม
ต่างเตรียมการทำพิธีที่นิยม                  ร่วมอบรมฟังพระธรรมเทศนา
นำดอกไม้ธูปเทียนเวียนรอบโบสถ์         เพื่อชีวีรุ่งโรจน์สุขหรรษา
รอบที่หนึ่งระลึกคุณพระพุทธา              รอบที่สองภาวนาคุณพระธรรม
รอบที่สามรำลึกคุณของพระสงฆ์          นำคำสอนพุทธองค์ที่เลิศล้ำ
มาเผยแผ่ให้หลุดพ้นห้วงแห่งกรรม        ปฏิบัติน้อมนำแต่ความดี
ขอชาวพุทธทั้งหลายได้สืบสาน            ลูกเหลนหลานรู้คุณค่ารู้ศักดิ์ศรี
รู้ประพฤติตามระบอบประเพณี              วัฒนธรรมที่ดีของชาติไทย

 
 
 
     วันมาฆบูชา ชื่อเต็มว่า มาฆปุรณมีบูชา แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญ เดือน ๓ มีคำที่ควรทราบเกี่ยวกับวันมาฆบูชาดังนี้
     จาตุรงคสันนิบาต แปลว่า การประชุมอันประกอบด้วยองค์ ๔ ซึ่งเป็นเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ
     ๑. พระสงฆ์จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ซึ่งจาริกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาตามสถานที่ต่างๆ เดินทางมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ
     ๒. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูปนี้ ล้วนเป็นพระอรหันต์ และได้รับการบวชจาก พระพุทธเจ้าโดยตรง ด้วยวิธี เอหิภิกขุอุปสัมปทา
     ๓. พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป ต่างมาประชุมพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
     ๔. วันที่มาประชุม ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (เดือน ๓) เป็นวันที่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนา ที่ชื่อว่า โอวาทปาติโมกข์
     เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือ การอุปสมบทด้วยพระวาจาของพระพุทธเจ้า ว่า “จงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมอันเรากล่าวไว้ดีแล้ว เธอจงประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อกระทำ ที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบ”
     โอวาทปาติโมกข์ คือข้อธัมมะย่ออันเป็นหลัก หรือหัวใจสำคัญของ พระพุทธศาสนา ๓ ประการคือ ไม่ทำความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม และ ทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใส โอวาทปาติโมกข์นี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงที่วัดเวฬุวนาราม นครราชคฤห์ แคว้นมคธ ในเวลาบ่าย
     สำหรับวันมาฆบูชาในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ นี้ ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมกันประกอบพิธีในวันสำคัญนี้ โดยจัดเตรียม เครื่องสักการะ ได้แก่ ดอกไม้ ธูป เทียน มาพร้อมกันตามเวลาที่ทางวัดนัดหมาย เพื่อฟังโอวาทหรือฟังธรรม สวดมนต์ แล้วจึงเวียนเทียนร่วมกัน ขณะเดินเวียนเทียนนั้น ทำจิตใจให้มีสมาธิ สงบ แน่วแน่อยู่กับบทบูชาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ไม่ควรส่งเสียงพูดคุยกัน เดินอย่างมีระเบียบ เมื่อเวียนเทียนครบ ๓ รอบแล้ว จึงนำดอกไม้ ธูป เทียน ไปวางไว้ในจุดที่กำหนดให้ การที่พุทธศาสนิกชนมาร่วมกันประกอบพิธีเวียนเทียน จะก่อให้เกิดความสงบ อิ่มเอมใจ และเป็นการสืบทอดประเพณีทางพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่
 

  [หน้าแรก] [รวมสาระ] [webboard] [คุรุชน]   counter power by seal2thai.org  

ร่วมสนับสนุนเรา โดยการทำ link มาหาเรานะครับ เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก พรมลายน่ารัก มะขาม ขนมจีน ข้อสอบ o-net a-net สอบบรรจุครู

     เรียนพิเศษในพิษณุโลก