เกณฑ์การย้ายครู-บุคลากรการศึกษา(ใหม่)
หมายเหตุ -
คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)
ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตาม
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ดังมีสาระสำคัญดังนี้
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้ใช้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งตามมาตรา 38 ก (1) (2), มาตรา 38
ข (1) (2) (3) (7) และมาตรา 38 ค ตาม
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 โดยการย้ายหมายถึง
การแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดำรงตำแหน่งว่าง การย้ายสับเปลี่ยน
การย้ายตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือน
ไปดำรงตำแหน่งเดิมในหน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการอื่น โดยการย้ายมี 3 กรณี คือ
1.การย้ายกรณีปกติ ได้แก่ การย้ายเพื่ออยู่รวมกับคู่สมรส ย้ายเพื่อดูแลบิดามารดา
และย้ายกลับภูมิลำเนา 2.การย้ายกรณีพิเศษ ได้แก่ ย้ายติดตามคู่สมรส
ย้ายเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง ย้ายเนื่องจากถูกคุกคามต่อชีวิต
และย้ายเพื่อดูแลบิดามารดาหรือคู่สมรสที่เจ็บป่วยร้ายแรง
3.การย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ได้แก่
ย้ายเพื่อแก้ปัญหาการบริหารจัดการในหน่วยงานการศึกษา
และย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
คุณสมบัติของผู้ย้าย
1.กรณีการย้ายปกติ
จะต้องไม่อยู่ในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม
ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานการศึกษาปัจจุบันไม่น้อยกว่า 12 เดือน นับถึงวันที่ 31
ตุลาคมของปีที่ขอย้าย ไม่อยู่ระหว่างลาศึกษาต่อเต็มเวลา
กรณีการย้ายสับเปลี่ยนต้องเป็นผู้ที่มีอายุราชการเหลือไม่น้อยกว่า 12 เดือน
นับถึงวันที่ 30 กันยายนของปีที่เกษียณอายุราชการ
2.กรณีการย้ายกรณีพิเศษ
หากเป็นการย้ายติดตามคู่สมรส
จะต้องไม่อยู่ในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม
คู่สมรสต้องเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำส่วนราชการ
พนักงานของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ
ที่จดทะเบียนสมรสก่อนวันที่คู่สมรสได้รับการแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งใหม่
และต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน การย้ายเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง
จะต้องเป็นผู้เจ็บป่วยหรือเป็นโรคร้ายแรง ต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน
และแพทย์แผนปัจจุบันในท้องถิ่นไม่สามารถรักษาได้
ซึ่งต้องมีหลักฐานทางการแพทย์รับรอง
การย้ายเนื่องจากถูกคุกคามต่อชีวิต
ต้องเป็นผู้ประสบปัญหาถูกคุกคาม ปองร้าย โดยมีหลักฐานทางราชการยืนยัน
และผู้บังคับบัญชาชั้นต้นให้คำรับรอง การย้ายเพื่อดูแลบิดามารดา คู่สมรส
ซึ่งเจ็บป่วยร้ายแรงนั้น
ผู้ขอย้ายต้องเป็นบุตรคนเดียวหรือบุตรซึ่งเหลือคนเดียวของบิดามารดา
หรือเป็นคู่สมรสตามกฎหมายของผู้เจ็บป่วยร้ายแรง
โดยบิดามารดาหรือคู่สมรสที่เจ็บป่วยร้ายแรงหรือเป็นโรคร้ายแรงต้องมีหลักฐานทางการแพทย์แผนปัจจุบันรับรอง
3.กรณีการย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
หากมีความจำเป็นต้องกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่ทางราชการประสงค์ให้ย้าย
ให้คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา
พิจารณาได้ตามความเหมาะสม
หลักเกณฑ์การพิจารณา
1.กรณีการย้ายปกติ ให้ดูจากองค์ประกอบ
ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิหรือวิชาเอก ผลการปฏิบัติงาน
การรักษาวินัยและจรรยาบรรณ ความอาวุโส
ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานการศึกษาปัจจุบัน
สภาพความยากลำบากในการปฏิบัติงาน เหตุผลการขอย้าย และให้
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษากำหนดองค์ประกอบอื่นเพิ่มเติมได้
2.กรณีการย้ายกรณีพิเศษ ให้
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษากำหนดแนวทางโดยให้คำนึงถึงเหตุผลความจำเป็นและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทางราชการ
3.กรณีย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
ถ้าย้ายเพื่อแก้ปัญหาในการบริหารจัดการในหน่วยงานการศึกษาให้คำนึงถึงความเหมาะสม
ประโยชน์ และความเป็นธรรมแก่ข้าราชการ ส่วนการย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ให้พิจารณาย้ายข้าราชการผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่เหมาะสมเป็นพิเศษ
*ทั้งนี้ ในการย้ายนั้น
ทางหน่วยงานที่จะรับย้ายต้องมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์อัตรากำลังหรือกรอบอัตรากำลังที่
ก.ค.ศ.กำหนด ส่วนคำร้องขอย้ายให้ใช้พิจารณาย้ายได้ตลอดปีงบประมาณ
หากสิ้นปีงบประมาณนั้นคำร้องใดไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ถือว่าคำร้องดังกล่าวต้องยกเลิก
และให้ยื่นคำร้องใหม่ในปีงบประมาณต่อไป*
โดยการย้ายกรณีปกติ ให้ผู้ประสงค์ขอย้ายยื่นคำร้องขอย้ายได้ปีงบประมาณละ 1 ครั้ง
ระหว่างวันที่ 16-31 ตุลาคมของแต่ละปี การย้ายกรณีพิเศษ
ให้ยื่นคำร้องขอย้ายได้เมื่อมีคุณสมบัติที่จะย้ายกรณีพิเศษ
สำหรับการย้ายติดตามคู่สมรสต้องขอย้ายภายใน 1 ปี
นับตั้งแต่วันคู่สมรสได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใหม่
ส่วนการย้ายไปส่วนราชการอื่น สามารถยื่นคำร้องขอย้ายได้ตลอดปี
โดยให้ผู้บังคับบัญชาชั้นต้นเสนอความเห็นและส่งคำร้องขอย้ายไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ในกรณีการย้ายข้าราชการที่ไม่ใช่ตำแหน่งผู้บริหารของหน่วยงานการศึกษาไปต่างเขตพื้นที่การศึกษา
ให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัดส่งคำร้องขอย้ายไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการที่รับย้าย
เพื่อให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา
ส่วนการย้ายผู้บริหารของหน่วยงานการศึกษาไปต่างเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการ
ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาของผู้ประสงค์ขอย้ายพิจารณาให้ความเห็นชอบ
และประสานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ต้องการย้ายไป
สำหรับการย้ายข้าราชการที่มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษไปยังต่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษารับย้ายเสนอคณะกรรมการ ก.ค.ศ.พิจารณาอนุมัติ
หากมีการย้ายกรณีที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดดังกล่าว
ให้เสนอคณะกรรมการ ก.ค.ศ.พิจารณา
ที่มา : กระทรวงศึกษาธิการ
[หน้าแรก] [webboard] [รวมสาระ] [คุรุชน] [สอบบรรจุครู] power by www.seal2thai.org