กรุณาเลือกคำตอบที่ถูกต้องลงในช่องว่างเพียงข้อเดียว (เวลาในการทำ 1 ชม.)

1. จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 1- 2
   1) หมุนล้อใหญ่เพื่อปรับภาพบนสไลด์ให้ชัดเจน
   2) หมุนเลนส์ใกล้วัตถุที่มีกำลังขยายต่ำสุดไว้ตรงแนวลำกล้อง
   3) นำสไลด์ที่เตรียมไว้วางบนแท่นวางสไลด์
   4) ปรับกระจกเอียงทำมุมที่ให้แสงเข้าลำกล้องให้เต็มที่
   5) หมุนเลนส์ใกล้วัตถุที่มีกำลังขยายสูงขึ้นตามลำดับที่ต้องการใช้งาน
   6) หมุนล้อเล็กเพื่อปรับภาพให้คมชัดมากขึ้น
   .................
   ถ้านักเรียนต้องการศึกษาสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดู นักเรียนจะปฏิบัติการใช้กล้องจุลทรรศน์ให้ถูกต้องตามลำดับก่อนหลังดังข้อใด
   

   1.   ?    1 – 2 – 3 – 4
   2.   ?    2 – 4 – 3 – 1
   3.   ?    3 – 4 – 2 – 5
   4.   ?    4 – 2 – 5 – 6

2. จงใช้ข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำถามข้อ 1- 2
   1) หมุนล้อใหญ่เพื่อปรับภาพบนสไลด์ให้ชัดเจน
   2) หมุนเลนส์ใกล้วัตถุที่มีกำลังขยายต่ำสุดไว้ตรงแนวลำกล้อง
   3) นำสไลด์ที่เตรียมไว้วางบนแท่นวางสไลด์
   4) ปรับกระจกเอียงทำมุมที่ให้แสงเข้าลำกล้องให้เต็มที่
   5) หมุนเลนส์ใกล้วัตถุที่มีกำลังขยายสูงขึ้นตามลำดับที่ต้องการใช้งาน
   6) หมุนล้อเล็กเพื่อปรับภาพให้คมชัดมากขึ้น
   .................
   จากข้อ 1 ถ้าต้องการดูภาพบนสไลด์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ควรปฏิบัติดังข้อใด

   1.   ?    5 – 6
   2.   ?    6 – 2 – 3
   3.   ?    3 – 4 – 2 – 5
   4.   ?    5 – 1

3. ความแตกต่างระหว่างเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด

   1.   ?    เซลล์พืชมีผนังเซลล์ แต่ไม่มีเซลล์เมมเบรน เซลล์สัตว์มีเฉพาะเซลล์เมมเบรน
   2.   ?    เซลล์พืชมีคลอโรพลาสต์ แต่ไม่มีไมโทคอนเดรีย เซลล์สัตว์มีไมโทคอนเดรีย แต่ไม่มีคลอโรพลาสต์
   3.   ?    ไลโซโซมมีเฉพาะในเซลล์สัตว์ เพราะมีเอนไซม์อยู่ภายใน แต่ในเซลล์พืชไม่มีไลโซโซม
   4.   ?    เซลล์พืชไม่มีโครโมโซมและเยื่อหุ้มนิวเคลียส แต่ในเซลล์สัตว์มี

4. การใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูใบว่านกาบหอยสิ่งใดที่แสดงว่าว่านกาบหอยเป็นพืช

   1.   ?    เห็นรูปร่างเซลล์เป็นรูปสี่เหลี่ยมชัดเจน
   2.   ?    เห็นผนังเซลล์ประกอบด้วยเซลลูโลส
   3.   ?    เห็นนิวเคลียสและเซลล์คุมชัดเจน
   4.   ?    เห็นคลอโรพลาสต์เป็นเม็ดเล็กๆ ชัดเจน

5. เซลล์ชนิดหนึ่งเมื่อตรวจดูด้วยกล้องจุลทรรศน์พบว่า มี endoplasmic reticulum ชนิดที่มีเม็ดเล็กๆ เกาะอยู่บริเวณผิวเป็นจำนวนมาก เม็ดเล็กๆ เหล่านี้คืออะไร และคาดว่าเซลล์นี้กำลังมีกิจกรรมใดต่อไปนี้มากที่สุด

   1.   ?    ribosome และมีกิจกรรมสังเคราะห์ไขมันเพื่อการส่งออกนอกเซลล์
   2.   ?    ribosome และมีกิจกรรมสังเคราะห์โปรตีนเพื่อการส่งออกนอกเซลล์
   3.   ?    lysosome และมีกิจกรรมสังเคราะห์โปรตีนเพื่อใช้ภายในเซลล์
   4.   ?    lysosome และมีกิจกรรมสังเคราะห์ไขมันเพื่อใช้ภายในเซลล์

6. เซลล์อสุจิเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว ต้องการพลังงานสูง คาดว่าจะพบออร์แกเนลล์ชนิดใดต่อไปนี้มากเป็นพิเศษ

   1.   ?    Golgi complex
   2.   ?    centriole
   3.   ?    nucleous
   4.   ?    mitochondria

7. lysosome ในเซลล์มีหน้าที่คล้ายกับบุคคลประเภทใด

   1.   ?    คนแปลข่าว
   2.   ?    คนเก็บขยะ
   3.   ?    แพทย์
   4.   ?    ทหาร

8. เมื่อใส่ปุ๋ยให้กับต้นไม้มากเกินไป ต้นไม้ไม่เจริญงอกงามตามที่ต้องการแต่กลับเหี่ยวเฉาลงเป็นเพราะเหตุใด

   1.   ?    สารละลายในดินมีแรงดันออสโมซิสสูงกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากเซลล์ออกสู่ดิน
   2.   ?    สารละลายในดินมีแรงดันออสโมซิสสูงกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากดินออกสู่เซลล์
   3.   ?    สารละลายในดินมีแรงดันออสโมซิสต่ำกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากเซลล์ออกสู่ดิน
   4.   ?    สารละลายในดินมีแรงดันออสโมซิสต่ำกว่าในเซลล์ ทำให้น้ำแพร่จากดินเข้าสู่ดิน

9. ข้อใดต่อไปนี้อาศัยกระบวนการเอกโซไซโทซิส

   1.   ?    การทำลายเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาว
   2.   ?    การนำอนุภาคขนาดใหญ่เข้าสู่เซลล์ของอะมีบา
   3.   ?    การขับเกลือแร่ส่วนเกินออกทางเหงือกของปลาทะเล
   4.   ?    การหลั่งเอนไซม์ย่อยอาหารออกมาจากเยื่อบุผิวลำไส้เล็ก

10. เมื่อเซลล์เม็ดเลือดขาวนำแบคทีเรียเข้าสู่เซลล์แล้ว ออร์แกเนลล์ใดทำหน้าที่ย่อยทำลายแบคทีเรียนั้น

    1.   ?    ไรโบโซม
    2.   ?    ไลโซโซม
    3.   ?    ไมโทคอนเดรีย
    4.   ?    กอลจิคอมเพล็กซ์

11. เซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด monocyte สามารถทำลายแบคทีเรียด้วยวิธี phagocytosis จึงน่าจะมีโครงสร้างใดมากกว่าเซลล์ชนิดอื่น

    1.   ?    smooth endoplasmic reticulum
    2.   ?    rough endoplasmic reticulum
    3.   ?    mitochondria
    4.   ?    lysosome

12. เมื่อแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายคนเรา เหตุการณ์ในข้อใดที่อาจจะเกิดขึ้น

    1.   ?    เซลล์เม็ดเลือดขาวกินเซลล์แบคทีเรียโดยวิธี phagocytosis
    2.   ?    เซลล์แบคทีเรียกินเซลล์เม็ดเลือดขาว
    3.   ?    แบคทีเรียเป็นแอนติเจนกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทำงาน
    4.   ?    เซลล์เม็ดเลือดขาวกินเซลล์แบคทีเรียโดยวิธี phagocytosis และ แบคทีเรียเป็นแอนติเจนกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทำงาน

13. ข้อใดเป็นการกล่าวเกี่ยวกับ facilitated diffusion ได้ถูกต้อง

    1.   ?    เป็นการแพร่ของสารเข้าสู่เซลล์ที่ต้องใช้พลังงาน ATP
    2.   ?    มีอัตราการแพร่ช้ากว่าการแพร่แบบธรรมดา (diffusion) มาก
    3.   ?    เป็นการแพร่ของสารบริเวณที่มีความเข้มข้นต่ำไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นสูงกว่า
    4.   ?    เป็นการแพร่ที่ไม่สามารถผ่าน cell membrane ได้โดยตรง ต้องอาศัยโปรตีนเป็นตัวพา

14. ถ้าเทน้ำเชื่อมและน้ำลงในแก้วเปล่าจะเกิดอะไรขึ้น

    1.   ?    น้ำและน้ำเชื่อมไม่มีการแพร่ (diffusion)
    2.   ?    น้ำอย่างเดียวจะแพร่(diffusion) เข้าไปในน้ำตาล เพราะโมเลกุลเล็กกว่า
    3.   ?    น้ำจะแพร่ (diffusion) เข้าไปในน้ำตาล และน้ำตาลจะแพร่(diffusion) ไปเข้าในน้ำ
    4.   ?    น้ำจะแพร่ (diffusion) เข้าไปในน้ำตาลได้ เมื่อมีเยื่อบางมากั้นกลางของสารทั้งสองชนิด

15. 8. กำหนดให้
    1) ใช้พลังงานจากกระบวนการเมแทบอลิซึมในการลำเลียงสาร
    2) ทิศทางการแพร่เป็นไปตามหลักความแตกต่างของความเข้มข้นของสาร
    3) มีระบบการลำเลียงสารโดยเฉพาะ
    4) ไม่ใช้พลังงานจากกระบวนการเมแทบอลิซึมในการลำเลียงสาร
    ข้อใดเป็นลักษณะการลำเลียงสารแบบ active transport กับการแพร่แบบ facilitate ตามลำดับ

    1.   ?    ข้อ 1 และ 2
    2.   ?    ข้อ 2 และ 3
    3.   ?    ข้อ 3 และ 4
    4.   ?    ข้อ 1 และ 4

16. 9. กำหนดให้
    1) เยื่อหุ้มเซลล์เว้าเข้าแล้วสารนั้นหลุดเข้าไปในถุง แล้วเข้าสู่ cytroplasm ของเซลล์
    2) โมเลกุลของสารมาเกาะติดกับเยื่อหุ้มเซลล์ แล้วหลุดเข้าไปใน cytoplasm ของเซลล์
    3) สร้าง pseudopodium ยื่นโอบล้อมอาหารให้กลายเป็นถุง แล้วหลุดเข้าไปใน cytoplasm ของเซลล์
    4) มีตัวพาที่บริเวณเยื่อหุ้มเซลล์ เพื่อนำสารโมเลกุลใหญ่เข้าไปใน cytoplasm ของเซลล์
    ข้อใดเป็นวิธีการนำสารเข้าสู่เซลล์แบบ pinocytosis และ phagocytosis ตามลำดับ

    1.   ?    ข้อ 1 และ 2
    2.   ?    ข้อ 2 และ 3
    3.   ?    ข้อ 1 และ 3
    4.   ?    ข้อ 2 และ 4

17. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุดเกี่ยวกับการรักษาดุลยภาพของน้ำในร่างกาย

    1.   ?    น้ำในร่างกายน้อย --> แรงดันออสโมติกในเลือดต่ำ --> กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหลัง -->
       หลั่งฮอร์โมน ADH --> น้ำในเลือดเข้าสู่ระดับปกติ
    2.   ?    น้ำในร่างกายสูง --> แรงดันออสโมติกในเลือดต่ำ --> กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหลัง-->
       หลั่งฮอร์โมน ADH --> น้ำในเลือดเข้าสู่ระดับปกติ
    3.   ?    น้ำในร่างกายน้อย --> แรงดันออสโมติกในเลือดสูง--> กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหลัง-->
       หลั่งฮอร์โมน ADH --> น้ำในเลือดเข้าสู่ระดับปกติ
    4.   ?    น้ำในร่างกายสูง --> แรงดันออสโมติกในเลือดสูง--> กระตุ้นต่อมใต้สมองส่วนหลัง-->
       หลั่งฮอร์โมน ADH--> น้ำในเลือดเข้าสู่ระดับปกติ

18. นักเรียนคนหนึ่งมีหมู่เลือด A เข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลและต้องการเลือดด่วน เขาจะไม่สามารถรับเลือดจากคนหมู่เลือดอะไรได้ เพราะเหตุใด

    1.   ?    หมู่เลือด B เพราะมีแอนติเจน B ที่เม็ดเลือดแดง ซึ่งจะมาจับกับแอนติบอดี B ในเลือดของเขา
    2.   ?    หมู่เลือด B เพราะมีแอนติเจน B ที่น้ำเลือด ซึ่งจะมาจับกับแอนติบอดี B ในเลือดของเขา
    3.   ?    หมู่เลือด AB เพราะมีแอนติเจน A และ B ที่เม็ดเลือด ซึ่งจะมาจับกับแอนติเจน A ที่เม็ดเลือดแดงของเขา
    4.   ?    หมู่เลือด AB เพราะมีแอนติเจน A และ B ที่เม็ดเลือด ซึ่งจะมาจับกับแอนติเจน B ที่เม็ดเลือดแดงของเขา

19. หลักที่ใช้จำแนกหมู่ในระบบ ABO คือข้อใด

    1.   ?    ชนิดของ antibody ที่เยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดขาว และชนิดของ antigen ในเลือด
    2.   ?    ชนิดของ antigen ในน้ำเหลือง และชนิดของ antibody ที่เยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดขาว
    3.   ?    ชนิดของ antigen ที่เยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดแดง และชนิดของ antibody ในเลือด
    4.   ?    ชนิดของ antigen ในน้ำเลือด และชนิดของ antibody ที่เยื่อหุ้มเซลล์เม็ดเลือดขาว

20. ข้อใดเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของไต

    1.   ?    การขับถ่ายของเสียและน้ำ
    2.   ?    ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
    3.   ?    ควบคุมสมดุลของน้ำและอิเล็กโทรไลด์
    4.   ?    ควบคุมสภาพความเป็นกรด-ด่างของร่างกาย

21. กรณีที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ADH ออกมามากเกินไปจะมีผลอย่างไร

    1.   ?    การดูดน้ำกลับที่ท่อหน่วยไตยังคงเป็นปกติ
    2.   ?    การดูดน้ำกลับที่ท่อหน่วยไตจะมากขึ้นกว่าปกติ
    3.   ?    การดูดน้ำกลับที่ท่อหน่วยไตจะลดลงมากกว่าปกติ
    4.   ?    การดูดเกลือแร่ที่ท่อหน่วยไตมากกว่าปกติ

22. คนที่เดินทางในทะเลทรายมีการปรับตัวทางสรีรวิทยาในข้อใดเพื่อรักษาดุลยภาพของร่างกาย

    1.   ?    ขับเหงื่อเพิ่มขึ้นและหลั่ง ADH เพิ่มขึ้น
    2.   ?    ขับเหงื่อลดลงและหลั่ง ADH ลดลง
    3.   ?    ขับเหงื่อเพิ่มขึ้นแต่หลั่ง ADH ลดลง
    4.   ?    ขับเหงื่อลดลงแต่หลั่ง ADH เพิ่มขึ้น

23. ข้อใดไม่ใช่อวัยวะที่สำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน

    1.   ?    ไขกระดูก
    2.   ?    ตับ
    3.   ?    ต่อมไทมัส
    4.   ?    ม้าม

24. กรณีที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมน ADH ออกมามากเกินไปจะมีผลอย่างไร

    1.   ?    การดูดน้ำกลับที่ท่อหน่วยไตยังคงเป็นปกติ
    2.   ?    การดูดน้ำกลับที่ท่อหน่วยไตจะมากขึ้นกว่าปกติ
    3.   ?    การดูดน้ำกลับที่ท่อหน่วยไตจะลดลงมากกว่าปกติ
    4.   ?    การดูดเกลือแร่ที่ท่อหน่วยไตมากกว่าปกติ

25. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุของปลาน้ำจืด

    1.   ?    ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง และปริมาณน้อย
    2.   ?    ปัสสาวะมีความเข้มข้นต่ำ และปริมาณน้อย
    3.   ?    ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูง และปริมาณมาก
    4.   ?    ปัสสาวะมีความเข้มข้นต่ำ และปริมาณมาก

26. กำหนดให้
    1) การรักษาปริมาณน้ำในร่างกายให้อยู่ในระดับปกติ
    2) การรักษาแร่ธาตุในร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล
    3) การมีกลไกการแข็งตัวของเลือดในขณะที่มีบาดแผล
    4) การรักษาความเป็นกรด-เบส และอุณหภูมิของร่างกายให้เหมาะสม
    การรักษาดุลยภาพของร่างกาย (homeostasis) หมายถึงข้อใด
    

    1.   ?    ข้อ 1 และ 2
    2.   ?    ข้อ 2 และ 4
    3.   ?    ข้อ 1 3 และ 4
    4.   ?    ถูกทุกข้อ

27. การเกิดขนลุกในช่วงหน้าหนาวมีประโยชน์กับตัวเราหรือไม่ อย่างไร

    1.   ?    มี เพราะป้องกันความร้อนไม่ให้แพร่ออกมา
    2.   ?    มี เพราะทำให้มีการสูญเสียเหงื่อน้อยลง
    3.   ?    ไม่มี เพราะเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติของคน
    4.   ?    ไม่มี เพราะคนเรามีขนในร่างกายน้อยกว่าสัตว์

28. ทอกซอยด์ (toxoid) หมายถึงข้อใด

    1.   ?    วัคซีนที่ผลิตได้จากสารพิษของเชื้อโรคที่ถูกทำให้อ่อนกำลัง
    2.   ?    เซรุ่มที่ผลิตได้จากสารพิษของเชื้อโรคที่ทำให้อ่อนกำลัง
    3.   ?    วัคซีนที่ผลิตได้จากสารพิษของเชื้อโรคที่ถูกทำให้หมดสภาพความเป็นพิษแล้ว
    4.   ?    เซรุ่มที่ผลิตได้จากสารพิษของเชื้อโรคที่ถูกทำให้หมดสภาพความเป็นพิษแล้ว

29. โรคที่ร่างกายสร้างภูมิต้านทานเนื้อเยื่อของตนเอง เรียกว่า

    1.   ?    โรคภูมิแพ้
    2.   ?    โรคเอสแอลอี
    3.   ?    โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
    4.   ?    โรคเอดส์

30. การฉีดวัคซีนและฉีดเซรุ่มเข้าสู่ร่างกายมีความเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร

    1.   ?    เหมือนกัน เพราะต่างก็กระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นมาต่อต้านเชื้อโรค
    2.   ?    เหมือนกัน เพราะต่างก็เป็นการฉีดแอนติบอดีเข้าสู่ร่างกายเพื่อต่อต้านเชื้อโรค
    3.   ?    ต่างกัน เพราะวัคซีนเป็นการฉีดแอนติเจน แต่เซรุ่มเป็นการฉีดแอนติบอดีเข้าสู่ร่างกาย
    4.   ?    ต่างกัน เพราะวัคซีนเป็นการฉีดแอนติบอดี แต่เซรุ่มเป็นการฉีดแอนติเจนเข้าสู่ร่างกาย