บางท่านอาจจะเกิดคำถามในใจว่า เรื่องราวของพระเกจิ
ผู้ที่มีรายชื่อร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วฟ้าเมืองไทย
จะมาอยู่ในดินแดนปัญญาชนได้อย่างไร ก็อยากจะตอบว่า ถ้าไม่ได้ข้อคิดดีๆ
จากท่าน ก็คงไม่นำมาลงหรอกครับ
ผมเอาภาพดังกล่าวตั้งเป็นภาพปกของ
facebook เพราะวันนี้ (18 มี.ค.56)
ผมโชคดีมากที่ได้เข้ากราบท่านเจ้าคุณ พระมงคลสุธี
หรือที่ชาวบ้านรู้จักท่านในนาม หลวงปู่แขก ปภาโส
หลังจากที่เข้าไปโรงเรียนเพื่อจัดการผลการเรียนของนักเรียน
และได้นัดหมายงานอื่นๆแล้ว เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอม
จึงทำให้มีโอกาสได้แวะกราบหลวงปู่ ดังที่ตั้งใจ
(สำหรับท่านที่มีโอกาสไปที่วัด ท่านจะพบว่า กิจนิมนต์ของหลวงปู่เยอะมาก
ถึงขนาดตารางต้องเขียนกำหนดล่วงหน้าถึง 2 เดือนเลยทีเดียว)
ในขณะที่ผมไปนั้น
หลวงปู่ได้เดินตรวจตรารอบๆวัด และใกล้กับเวลาฉันเพลพอดี
เมื่อหลวงปู่เดินมาเพื่อจะเข้าไปฉันเพล ผมนั่งยองๆยกมือไหว้หลวงปู่
ท่านมองมาและยิ้มให้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ผมจึงไปนั่งคุยกับป้าคนหนึ่งที่มาทำงานในวัด
ขณะนั้นก็มีนายทหารจากกองทัพภาคที่ 3 เดินทางมาถวายสังฆทานหลวงปู่
ทหารยศพลตรี ได้รอจังหวะหลวงปู่ฉันเสร็จแล้วจึงเข้าไปกราบ
นายทหารจากกองทัพภาคที่ 3 เข้ากราบหลวงปู่
อีกมุมหนึ่ง...
พี่ยา ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่ กล่าวชวนกินข้าวก้นบาตร
เป็นจังหวะที่ อ.สุเมธ ธนะชัย มาถึงพอดี จึงได้กินข้าวก้นบาตรพร้อมๆกัน
(บางท่านบอกว่า ได้ข้อคิดตรงไหน ยังครับ รอเดี๋ยว... )
กินข้าวก้นบาตร หลวงปู่แขก
อ.สุเมธ ธนะชัย ศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่
อร่อยเชียว...
ในจังหวะนั้น หลวงปู่ได้เรียกให้นำวัตถุมงคล มอบให้เหล่านายทหาร
และได้เป่าหัวให้เพื่อเป็นสิริมงคล
ต้องบอกว่า ท่านเป่านานมากครับ
ผมสังเกตเห็นสีหน้านายทหารที่มาด้วยดูตื่นเต้น
เพราะเพิ่งได้ประสบกับตาครั้งแรก ขนาดผมเห็นหลายครั้งแล้ว
ก็ยังตื่นเต้นอยู่ทุกครั้งไป
หลวงปู่เป่าหัวให้ท่านายพล
นายทหารที่มาด้วย ก็ขอให้หลวงปู่เป่าเช่นกัน
เมื่อคณะของทหารกลับไปแล้ว
อ.สุเมธ จึงเข้าไปกราบหลวงปู่ และถวายปานะ พร้อมกับคุยสารทุกข์สุขดิบ
หลวงปู่ได้เล่าถึงตอนไปอีสาน ท่านบอกว่า คนอีสานนับถือในพระศาสนามาก
พระผู้ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติดีก็มีมาก
หลวงปู่เล่าเรื่องธรรมะ
มีผู้มาขอให้หลวงปู่จารวัตถุมงคลเพิ่ม ผมเองก็ขอด้วย...
เมื่อจารเสร็จ หลวงปู่ก็อัดกสินให้ตามตำรับ
จากนั้น ผมก็เรียนหลวงปู่ไปว่า นิตยสารที่ผมเขียนนำเสนอประวัติหลวงปู่แขก
เค้าได้ลงแล้ว และกำลังมีกิจกรรมจะหล่อรูปลอยองค์สมเด็จโต
มีการส่งมวลสารต่างๆจากทั่วประเทศไป ผมขอหลวงปู่จารแผ่นโลหะที่ผมเตรียมไป
เพื่อจะนำส่งไปให้นิตยสาร รวมกับมวลสารของท่านอื่นๆ
จะได้เป็นที่ยึดเหนี่ยวต่อไป หลวงปู่ก็ยิ้มๆ แล้วจารให้
หลวงปู่แขก เมตตาจารแผ่นยันต์
ยันต์ครู หลวงปู่แขก ปภาโส
ชุดนี้ ส่งร่วมหล่อสมเด็จโต
อีกชุด ผมม้วนเข้าด้วยกัน เพื่อนำเป็นตะกรุดห้อยส่วนตัว
ขณะนั้น พระที่รับผิดชอบงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดกรุงกรัก
(บ้านเกิดหลวงปู่แขก) 9 - 15 เม.ย. 56
เข้ามารายงานความคืบหน้าของการเตรียมงานในด้านต่างๆ ท่านใดสนใจร่วมงาน
ร่วมบุญ
เชิญได้เลยนะครับที่วัดกรุงกรัก มีวัตถุมงคลหลวงปู่แขกมอบให้ฟรี สอบถามโทร
08-4812-2485
ผมเห็นหลวงปู่ทำกิจมาก และนานๆ
เราจะได้มีโอกาสรับใช้ครูบาอาจารย์ จึงขอนวดเท้าหลวงปู่
ข้อคิดดีๆ มันอยู่ตรงจุดนี้แหละครับ...
ในระหว่างที่นวดเท้าให้หลวงปู่แขก
หลวงปู่ก็เล่าปริศนาธรรมต่างๆให้ฟัง บางเรื่อง
ก็เป็นเรื่องของคนที่ไม่เกรงกลัวบาปกรรม ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี
เมื่อถึงจังหวะหนึ่ง ผมก็ถามหลวงปู่ว่า
"หลวงปู่ครับ มีคาถาอะไรที่ทำให้ประสบความสำเร็จบ้างครับ"
แทนที่หลวงปู่จะตั้งนะโม ตามวิสัยของความเป็นพระเกจิอาจารย์
ท่านกลับยิ้มแล้วบอกว่า
"ไอ้หนู ถ้าจะให้สำเร็จ ไม่ต้องใช้คาถา ให้ใช้จิตของเรานี่แหละ
ตั้งสัจจะอธิษฐาน แล้วลงมือทำ เวลาทำ ก็อาศัยหลักอิทธิบาท 4 ทั้ง ฉันทะ
วิริยะ จิตตะ วิมังสา ต้องเอามาใช้ให้หมด... เมื่อเราตั้งใจจริง
ลงมือทำจริง เดี๋ยวก็มีคนช่วยเอง มีเทวดาช่วยเอง ดูอย่างโบสถ์ของวัด
หลวงปู่ตั้งใจทำงานแลกมา ไม่ได้เรี่ยไร พอเค้าเห็นเราทำจริง
ชาวบ้านเค้าก็มาร่วมมือร่วมใจกับเรา"
โห... สุดยอดครับ
ผมใฝ่หาคาถามาใช้ แต่กลับสิ่งง่ายๆที่จะทำให้เราสำเร็จ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า วัตถุมงคลต่างๆนั้น
เกจิอาจารย์ต่างๆทั่วฟ้าเมืองไทย ล้วนสร้างไว้เพื่อเป็นปริศนาธรรมคำสอน
หากเรานำมาคิดไตร่ตรอง นอกจากพุทธคุณที่ปกป้องคุ้มครองเราแล้ว
ก็ยังจะสามารถทำให้เกิดปัญญาอีกด้วย
ผมนึกถึงข้อเขียนของปราชญ์ท่านหนึ่ง เมื่อมีคนถามว่า วัตถุมงคล สร้างมาทำไม
ท่านบอกว่า เวลาที่มีศิษย์เอาไปส่อง เข้าเห็นอักขระ เห็นรูปยันต์ต่างๆ
เกิดความสงสัยก็จะได้เข้ามาถาม เป็นการดึงคนเรียนธรรมอีกทางหนึ่ง...
...เพราะจริตของคนเราไม่เหมือนกัน
ถือว่าวันนี้ ผมได้ทั้งของดี ได้ทั้งปัญญาจากหลวงปู่แขก ปภาโส วัดสนุทรประดิษฐ์
พระเกจิที่มีชื่อ มีรูป ว่าเข้าร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลทั่วฟ้าเมืองไทย
ขนาดท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง ท่านกลับไม่ยึดติด ไม่ว่าใคร ฐานะยากดีมีจน มียศฐาบรรดาศักดิ์หรือไม่
หากท่านอยู่ที่กุฏิ ก็สามารถเข้าพบได้ง่าย ราวกับพระทั่วไปเลยทีเดียว
(ที่ต้องบอกว่า ถ้าท่านว่าง เพราะท่านมีกิจนิมนต์เยอะมากจริงๆครับ
ไปดูที่กระดานได้เลยครับ)
เมื่อถึงเวลาอันสมควร อาจารย์สุเมธ และผมได้กราบลาหลวงปู่แขก
เพื่อให้ท่านได้พักผ่อน และทำกิจอื่นๆ
ก่อนกลับ ขออ้อนหนุนตักหลวงปู่เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต
หน้าที่การงาน ครับ
ต้องกราบขอบพระคุณหลวงปู่แขก ปภาโส ที่เมตตาข้าราชการครูชั้นผู้น้อยคนนี้
และต้องขอบพระคุณพี่ๆทุกท่าน ทั้งอ.สุเมธ ธนะชัย พี่ยา พี่นวล พี่ต้น
และป้าๆ น้าๆที่อยู่ในวัด ซึ่งทุกๆท่านให้ความเมตตาพูดคุยเป็นกันเองมาก
คติธรรมทั้งหลาย ล้วนเกิดจากปัญญา เมื่อนำมาปัญญามาจับ ความรู้ก็จะเกิดขึ้น
อย่างที่หลวงปู่แขก ท่านเมตตาสอนนะครับ หากจะทำสิ่งใด ควรทำจริง
เหมือนที่เสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร ได้มีคาถาประจำพระองค์ว่า "กริยา เจ กริยา
เถนํ" ครับ seal2thai.org
เชื่อว่า ทุกคนทำได้ครับ
ขอบคุณครับที่ทำ link
และอ้างอิงมาหาเรา
นึกว่าในสังคมจะไม่มีคนให้เกียรติคนอื่นเหลืออยู่อีกแล้ว
|
ให้คะแนนข้อเขียนนี้ กี่ดาวดีครับ... |
|